เลนส์ Anamorphic คืออะไร? ความแตกต่างและข้อดีของเลนส์ภาพยนตร์ระดับมืออาชีพ

หากคุณเคยดูภาพยนตร์ที่มีมุมมองภาพกว้างเป็นพิเศษ และโบเก้ที่มีเอกลักษณ์ คุณอาจกำลังเห็นผลลัพธ์จาก เลนส์ Anamorphic ซึ่งเป็นหนึ่งในเทคโนโลยีการถ่ายทำที่ได้รับความนิยมในอุตสาหกรรมภาพยนตร์มาอย่างยาวนาน ในบทความนี้ เราจะพาคุณไปรู้จักกับ เลนส์ Anamorphic คืออะไร? ทำไมจึงถูกใช้ในภาพยนตร์ระดับฮอลลีวูด? และมีข้อดีข้อเสียอะไรบ้าง?

หัวข้อ

เลนส์ Anamorphic คืออะไร?

เลนส์ Anamorphic เป็นเลนส์ชนิดพิเศษที่ออกแบบมาเพื่อบีบอัดภาพในแนวนอน (Horizontally Squeezed) ลงไปในเซ็นเซอร์ของกล้อง และเมื่อภาพถูกฉายหรือผ่านกระบวนการ Post-Production ก็จะถูกยืดออกมาเป็นอัตราส่วนภาพแบบกว้างพิเศษ (Cinemascope) ซึ่งมักอยู่ที่ 2.39:1 หรือ 2.35:1

คุณสมบัติหลักของเลนส์ Anamorphic

มุมมองภาพกว้าง (Wide Aspect Ratio) – ให้มิติภาพที่กว้างและดูสมจริง
โบเก้รูปไข่ (Oval Bokeh) – แตกต่างจากเลนส์ Spherical ที่ให้โบเก้เป็นวงกลม
แสงแฟลร์แบบเส้น (Horizontal Lens Flare) – สร้างเอฟเฟกต์แสงที่เป็นเอกลักษณ์
ระยะชัดลึกที่แคบกว่าเลนส์ปกติ – ทำให้ภาพมีมิติเพิ่มขึ้น

ความแตกต่างระหว่างเลนส์ Anamorphic และ Spherical

คุณสมบัติ	เลนส์ Anamorphic	เลนส์ Spherical
อัตราส่วนภาพ (Aspect Ratio)	2.39:1 หรือ 2.35:1	16:9 หรือ 1.85:1
การบีบอัดภาพ (Compression)	บีบอัดแนวนอน	ไม่มีการบีบอัด
โบเก้ (Bokeh)	รูปไข่	วงกลม
แสงแฟลร์ (Lens Flare)	เส้นแนวนอน	กระจายทั่วไป
มิติของภาพ	มีความลึกมากกว่า	ให้ภาพที่ดูธรรมดา

ข้อดีของเลนส์ Anamorphic

มุมมองภาพกว้าง (Cinematic Look) – ได้ภาพที่ดูอลังการแบบเดียวกับภาพยนตร์ฮอลลีวูด
โบเก้ที่สวยงาม (Oval Bokeh) – ทำให้ภาพมีมิติและโดดเด่นกว่าปกติ
แสงแฟลร์ที่มีเอกลักษณ์ (Cinematic Lens Flare) – เพิ่มความสวยงามให้กับฉาก
ความละเอียดของภาพสูงขึ้น – เนื่องจากเลนส์บีบอัดภาพ จึงสามารถใช้เซ็นเซอร์กล้องได้เต็มประสิทธิภาพ

ข้อเสียของเลนส์ Anamorphic

ราคาสูงกว่าเลนส์ทั่วไป – เลนส์ Anamorphic มีราคาสูงกว่ามากเมื่อเทียบกับเลนส์ Spherical
ต้องผ่านกระบวนการยืดภาพ (Desqueeze) – จำเป็นต้องใช้ซอฟต์แวร์หรือฮาร์ดแวร์พิเศษเพื่อให้ได้อัตราส่วนภาพที่ถูกต้อง
ต้องการแสงที่เพียงพอ – เลนส์ Anamorphic มักมีรูรับแสงที่แคบกว่าปกติ ทำให้ต้องใช้แสงมากขึ้น

ประเภทของเลนส์ Anamorphic

1. เลนส์ Anamorphic แบบ 1.33x

บีบอัดภาพในอัตราส่วน 1.33x
ใช้งานร่วมกับกล้องที่มีอัตราส่วน 16:9 เพื่อให้ได้ภาพ 2.35:1
เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเอฟเฟกต์ Anamorphic แต่ยังใช้กล้องปกติ

2. เลนส์ Anamorphic แบบ 1.8x – 2x

บีบอัดภาพในอัตราส่วน 1.8x – 2x
ใช้กับเซ็นเซอร์ Super 35 หรือ Full Frame
ให้ภาพที่เป็น Cinemascope แท้จริง

3. เลนส์ Anamorphic แบบ Adapter

ใช้กับเลนส์ Spherical ทั่วไปเพื่อให้ได้ลุค Anamorphic
ราคาไม่แพงเท่าเลนส์ Anamorphic แท้ๆ
ต้องการการตั้งค่าโฟกัสที่แม่นยำขึ้น

เลนส์ Anamorphic เหมาะกับใคร?

ผู้กำกับภาพยนตร์ (Cinematographers) – ต้องการสร้างสไตล์ภาพที่แตกต่างจากเลนส์ปกติ
ผู้ผลิตมิวสิกวิดีโอ (Music Video Producers) – ใช้เพื่อให้ได้ลุคภาพยนตร์ที่สวยงาม
ช่างภาพงานโฆษณา (Commercial Filmmakers) – ต้องการโบเก้ที่มีเอกลักษณ์
ผู้ที่ต้องการสร้างสรรค์ภาพยนตร์แบบมืออาชีพ – อยากได้มิติของภาพที่โดดเด่นกว่าเลนส์ทั่วไป

แบรนด์ยอดนิยมของเลนส์ Anamorphic

ARRI Master Anamorphic

ให้สีที่แม่นยำและโบเก้ที่สวยงาม
เหมาะสำหรับการถ่ายทำระดับมืออาชีพ

Cooke Anamorphic/i

ให้ภาพที่มีมิติและความนุ่มนวลที่เป็นเอกลักษณ์ของ Cooke Look

Atlas Orion Anamorphic

เป็นตัวเลือกที่ราคาประหยัดกว่า เหมาะสำหรับผู้กำกับอินดี้

Vazen Anamorphic

เหมาะสำหรับผู้ใช้กล้อง MFT และ BMPCC

วิธีเลือกเลนส์ Anamorphic ที่เหมาะกับคุณ

🔹 งบประมาณ: เลือกแบรนด์ที่เหมาะสมกับงบของคุณ (ARRI และ Cooke จะมีราคาสูงกว่า Atlas และ Vazen)
🔹 ประเภทของเซ็นเซอร์: ตรวจสอบว่าเลนส์รองรับ Full Frame หรือ Super 35
🔹 อัตราส่วนการบีบอัด: ถ่ายทำในอัตราส่วน 1.33x, 1.8x หรือ 2x
🔹 โบเก้และแฟลร์: เลือกเลนส์ที่ให้โบเก้และแสงแฟลร์ตามสไตล์ที่คุณต้องการ

สรุป

เลนส์ Anamorphic เป็นเลนส์ที่ให้ภาพแบบ Cinemascope ด้วยโบเก้ที่เป็นวงรี แสงแฟลร์ที่เป็นเส้น และมุมมองภาพที่กว้างขึ้น ทำให้เป็นที่นิยมอย่างมากในอุตสาหกรรมภาพยนตร์ หากคุณต้องการสร้างสรรค์งานภาพที่มีมิติและความเป็นมืออาชีพ เลนส์ Anamorphic คือตัวเลือกที่ไม่ควรมองข้าม

หากคุณอยากให้ภาพของคุณมีลุคแบบภาพยนตร์ Anamorphic Lens คือสิ่งที่คุณควรลอง!