เว็บไซต์ Business Information
บริการรับทำ เว็บไซต์ Business มุ่งเน้นการออกแบบเว็บไซต์ที่เข้ากันกับแบรนด์และความเชี่ยวชาญของธุรกิจของคุณ และทำให้มันมีความน่าสนใจและใช้งานง่ายสำหรับผู้เยี่ยมชมเว็บไซต์
เว็บ Business คืออะไร?
เว็บไซต์ที่สร้างขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์ทางธุรกิจ โดยมุ่งเน้นการนำเสนอข้อมูลและบริการเกี่ยวกับธุรกิจนั้นๆ ให้กับกลุ่มเป้าหมาย เช่น เว็บไซต์ร้านค้าออนไลน์ เว็บไซต์บริษัท เว็บไซต์องค์กร เว็บไซต์หน่วยงาน
เว็บ Business ดีอย่างไร?
สร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับธุรกิจ
เว็บไซต์เป็นช่องทางที่ลูกค้าสามารถเข้าถึงข้อมูลเกี่ยวกับธุรกิจได้ ดังนั้น เว็บไซต์จึงเปรียบเสมือนหน้าร้านของธุรกิจในโลกออนไลน์ หากเว็บไซต์ออกแบบมาอย่างดี จะช่วยสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับธุรกิจ
เพิ่มโอกาสในการขายสินค้าหรือบริการ
เว็บไซต์เป็นช่องทางที่ลูกค้าสามารถสั่งซื้อสินค้าหรือบริการได้โดยตรง ดังนั้น เว็บไซต์จึงช่วยเพิ่มโอกาสในการขายสินค้าหรือบริการให้กับธุรกิจ
เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้กว้างขึ้น
เว็บไซต์สามารถเข้าถึงผู้ใช้งานอินเทอร์เน็ตได้ทั่วโลก โดยไม่จำกัดระยะทางหรือเวลา ดังนั้น เว็บไซต์จึงช่วยขยายฐานลูกค้าให้กับธุรกิจได้เว็บไซต์สามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้หลายช่องทาง เว็บไซต์สามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้หลายช่องทาง เช่น ผ่านเครื่องมือค้นหา ผ่านการแบ่งปันบนโซเชียลมีเดีย ผ่านการโฆษณา เป็นต้น ดังนั้น เว็บไซต์จึงช่วยเพิ่มโอกาสในการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้กว้างขึ้น
แพ็กเกจเว็บไซต์
WooCommerce เป็นปลั๊กอินอีคอมเมิร์ซฟรีสำหรับ WordPress ที่ช่วยให้คุณสร้างร้านค้าออนไลน์เต็มรูปแบบได้ WooCommerce ได้รับความนิยมอย่างมากเนื่องจากใช้งานง่ายและมีคุณสมบัติครบถ้วน ซึ่งรวมถึงระบบจัดการสินค้าและบริการ ระบบชำระเงิน ระบบการจัดส่ง ระบบจัดการสต็อก ระบบสมาชิก และอื่นๆ อีกมากมาย
Standard
เริ่มต้น 15,000.-
Pro
เริ่มต้น 25,000.-
สนใจจ้างทำเว็บไซต์?
กำหนดความต้องการของคุณ
เลือกแพ็กเกจ และ รายละเอียดการออกแบบหน้าตาเว็บไซต์
จัดเตรียมข้อมูลและรูปภาพให้เรา
ต้องเตรียมข้อมูลและรูปภาพ เพื่อเริ่มออกแบบดีไซน์ต้นแบบ และเริ่มลงมือทำเว็บไซต์
เรียกเก็บมัดจำ 50% ก่อนเริ่มงาน
ทางเราขอเรียกเก็บ 50% ก่อนเริ่มทำเว็บไซต์ ส่วนที่เหลือชำระหลังจากเว็บขึ้นใช้งานจริง
ส่งมอบเว็บไซต์พร้อมขึ้นโฮสติ้ง
ในการส่งมอบงานครั้งแรก คุณสามารถขอแก้ไขได้ฟรี 3 ครั้ง จนกว่าจะพึงพอใจ
ราคาและบริการ
แพ็กเกจเว็บ E-Commerce
Portfolio
ผลงาน
คำถามที่พบบ่อย (FAQ)
WordPress เหมาะกับการทำเว็บไซต์ ecommerce หรือไม่?
WordPress เป็นแพลตฟอร์มที่ได้รับความนิยมอย่างมากสำหรับการสร้างเว็บไซต์ทุกประเภท รวมถึงเว็บไซต์ ecommerce อีกด้วย WordPress มีข้อดีหลายประการสำหรับการทำเว็บไซต์ ecommerce เช่น
- ใช้งานง่ายและปรับแต่งได้ง่าย
- มีธีมและปลั๊กอินมากมายให้เลือกใช้งาน
- มีชุมชนขนาดใหญ่และการสนับสนุนที่ดี
อย่างไรก็ตาม WordPress ก็มีข้อเสียบางประการสำหรับการทำเว็บไซต์ ecommerce เช่น
- อาจไม่เหมาะสำหรับธุรกิจขนาดใหญ่ที่ต้องการคุณสมบัติขั้นสูง
- จำเป็นต้องมีความรู้เกี่ยวกับ WordPress พื้นฐาน
WooCommerce คืออะไร?
WooCommerce เป็นปลั๊กอินอีคอมเมิร์ซยอดนิยมสำหรับ WordPress ช่วยให้ผู้ใช้สามารถสร้างเว็บไซต์ขายของออนไลน์ได้โดยไม่ต้องเขียนโค้ดใด ๆ
คุณสมบัติของ WooCommerce มีอะไรบ้าง?
WooCommerce มีฟีเจอร์มากมายที่ช่วยให้ผู้ค้าออนไลน์สามารถสร้างเว็บไซต์ขายของออนไลน์ที่ประสบความสำเร็จ ฟีเจอร์เหล่านี้รวมถึง:
- ตะกร้าสินค้าและการชำระเงิน
- การจัดการสต็อก
- การจัดส่งและภาษี
- การตลาดและโปรโมชั่น
- การวิเคราะห์
WooCommerce มีข้อดีและข้อเสียอะไรบ้าง?
WooCommerce มีข้อดีและข้อเสียดังต่อไปนี้
ข้อดี:
- ใช้งานง่ายและปรับแต่งได้ง่าย
- รองรับหลายภาษา
- ปลอดภัยและได้รับการอัปเดตเป็นประจำ
- รองรับคุณสมบัติมากมาย เช่น ผลิตภัณฑ์เสมือนจริง ส่วนลด และการจัดส่ง
ข้อเสีย:
- อาจต้องใช้เวลาและความพยายามในการตั้งค่าและปรับแต่ง
- อาจต้องซื้อธีมหรือส่วนเสริมเพิ่มเติมเพื่อปรับแต่งร้านค้าออนไลน์ของคุณ
WooCommerce เปรียบเทียบกับ Shopify อย่างไร?
WooCommerce และ Shopify เป็นแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซยอดนิยมทั้งสองแพลตฟอร์ม อย่างไรก็ตาม มีความแตกต่างที่สำคัญบางประการระหว่างทั้งสองแพลตฟอร์ม
WooCommerce:
- ฟรี
- ใช้งานบน WordPress
- รองรับธีมและส่วนเสริมมากมาย
- ปรับแต่งได้สูง
Shopify:
- มีค่าบริการรายเดือน
- แพลตฟอร์มเฉพาะสำหรับอีคอมเมิร์ซ
- ใช้งานง่าย
- มีคุณสมบัติครบถ้วน
- ทางเราไม่รับทำเว็บไซต์ที่ผิดกฎหมายหรือโปรโมทสิ่งผิดกฎหมายทุกชนิด
- ในการทำเว็บไซต์กับทางเรา ใช้โฮสติ้งและโดเมนของ hostatom เป็นหลัก
- ในการทำเว็บไซต์กับทางเรา เราใช้ Theme ของ Flat some และ Astra เป็นพื้นฐาน เนื่องจากทั้ง 2 Theme นี้มีการใช้งานอย่างแพร่หลาย และทำให้เว็บไซต์เร็วขึ้น
- ในการทำเว็บไซต์กับทางเรา เราจะใช้ Plug-in ในการออกแบบเว็บไซต์ (Page Builder) คือ Element และ Element Pro
- จากข้อ 1 และ 3 ทาง hostatom มีโปรโมชั่นพิเศษ หากเช่า wp-hosting กับ hostatom จะได้สิทธิพิเศษแถมมาคือ Elementor Pro ฟรี License ตลอดอายุการใช้งาน ในส่วนนี้ทางเรามองว่ามันจะช่วยลดต้นทุน ที่ลูกค้าต้องจ่ายต่อในปีถัดๆ ไปได้เยอะ
- ในการทำเว็บไซต์กับทางเรา เราจะมีการทำ SEO ให้ในระดับพื้นฐาน ซึ่งก็คือการทำ Onpage SEO โดยจะไม่มีการเขียนบทความเพื่อทำ SEO ให้
- ในการทำเว็บไซต์กับทางเรา เราจะใช้ระบบ CMS ของ WordPress เป็นพื้นฐาน ซึ่งเขียนบนพื้นฐานของภาษา php
- ในการทำเว็บไซต์กับทางเรา จะมีระบบหลังบ้านให้คุณสามารถเข้าไปจัดการเว็บไซต์ของคุณเพิ่มเติมได้ *แต่ทางเราจะล็อคฟีเจอร์บางอย่างไว้ให้ไม่สามารถเข้าไปปรับแก้ในส่วนนั้น เนื่องจากเป็นการป้องกันการแก้ไขที่พิดพลาดและส่งผลทำให้ระบบหรือดีไซน์ของเว็บไซต์มีปัญหาได้ แต่หากจำเป็นต้องแก้ไขจริงๆ ให้ติดต่อมาหาทางเราเพื่อให้เราแก้ไขส่วนนั้นหรือปลดการล็อคฟีเจอร์นั้นออก
- ในการทำเว็บไซต์กับทางเรา เราจะไม่มีการออกแบบหรือทำงานภาพ กราฟฟิก แถมไปให้ เพราะไม่ได้อยู่ในขอบเขตการทำงานของทางเรา
- ตัวอย่างผลงานที่เรานำมาแสดงเป็นการนำผลงานจริงและการฝึกซ้อมมาแสดงเท่านั้น บางผลงานเป็น Template ที่เราสร้างขึ้นโดยไม่ได้นำขึ้นเว็บจริง
- ในการทำเว็บไซต์กับทางเรา ทางเราจะมีการดูแลเว็บไซต์ให้ตลอดอายุการใช้งาน แต่ไม่รวมการแก้ดีไซน์และการทำฟีเจอร์ให้ (ต้องนับเป็นงานใหม่) โดยการดูแลจะเป็นการอัพเดต WordPress, การสำรองข้อมูล, รวมไปถึงการจัดการ hosting (ในกรณีที่ให้ทางเราเปิด hostinig ให้เท่านั้น) ต่ออายุ hosting หรือ ต่ออายุโดเมน
- เว็บไซต์ Ecommerce จะใช้ Plug-in Woocommerce ในการทำระบบซื้อขายสินค้า
- เว็บไซต์ Ecommerce แพ็กเกจเริ่มต้นราคา 15,000 บาทเป็นต้นไป
- เว็บไซต์ Ecommerce แพ็กเกจเริ่มต้น เป็นร้านค้าประเภท Catalog ไม่มีระบบตะกร้าสินค้า หากต้องการระบบตะกร้าสินค้า ให้เลือกแพ็กเกจ Standard ขึ้นไป
- ฟีเจอร์ของเว็บไซต์ Ecommerce ขึ้นอยู่กับแพ็กเกจนั้นๆ หากต้องการฟีเจอร์เพิ่มเติมนอกเหนือจากนั้น ทางเราจะต้องพิจารณาเพิ่มทั้งเรื่องของราคาและความเป็นไปได้ในการทำฟีเจอร์เพิ่มเติมนั้นๆ
- ราคาแพ็กเกจเว็บไซต์ Ecommerce จะไม่คงที่ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย ดังนั้นราคาที่เห็นในแพ็กเกจ อาจจะเพิ่มขึ้นหรือลดลงก็ได้