เมื่อธุรกิจของคุณมีเว็บไซต์และได้เริ่มทำ SEO (Search Engine Optimization) ไปสักระยะหนึ่งแล้ว สิ่งต่อมาที่เป็นส่วนหนึ่งในการวัดผลการทำ SEO ของคุณก็คือ “การเช็คอันดับเว็บไซต์”
การเช็คอันดับเว็บไซต์นั้นก็คือการวัดผลหรือเช็คว่าตอนนี้ในคำค้นหานั้น ๆ เว็บไซต์ของคุณอยู่อันดับที่เท่าไรในหน้าการแสดงผลการค้นหา (SERP) ซึ่งจะทำให้คุณเห็นถึงข้อบกพร่องหรือจุดบอดในการทำ SEO บนเว็บไซต์เพื่อการไต่อันดับของคุณอย่างชัดเจนมากขึ้น
รวมถึงการเช็คอันดับเว็บไซต์ยังเป็นการนำผลลัพธ์ของการทำ SEO ที่ได้รับไปปรับปรุงและพัฒนาการทำ SEO ให้ดียิ่งขึ้นต่อไปในอนาคต แต่คำตอบของอันดับเว็บไซต์ที่อยู่บน Search Engine อย่าง Google นี่ไม่ใช่อันดับที่แท้จริง เพราะในการเช็คอันดับเว็บไซต์นั้นต้องอาศัยเครื่องมือเข้ามาช่วย
โดยในบทความนี้เราจะมาแนะนำเครื่องมือในการเช็คอันดับเว็บไซต์ ที่มีทั้งแบบง่าย ๆ ฟรี ๆ ใช้งานได้ทันทีและแบบเสียเงิน ที่จะได้ฟีเจอร์การใช้งานที่มากขึ้นเพิ่มมาด้วย ติดตามต่อได้ในบทความนี้
ในการเช็คอันดับเว็บไซต์นั้น อย่างที่ได้กล่าวไปว่าคุณไม่สามารถใช้ผลลัพธ์ที่อยู่บนหน้าการแสดงผลการค้นหาของ Google เป็นคำตอบของอันดับเว็บไซต์ได้ (เพราะอันดับที่เราเห็นไม่ใช่ลำดับที่แท้จริงของเว็บไซต์) ดังนั้นเราจึงต้องอาศัยเครื่องมือเช็คอันดับเว็บไซต์ในการช่วยคุณพิสูจน์ถึงอันดับที่แท้จริง
ซึ่งเครื่องมือเช็คอันดับเว็บไซต์นั้นก็มีหลากหลายตัวให้คุณได้เลือก มีทั้งแบบฟรี ใช้งานง่าย ฟังก์ชันไม่เยอะ ไล่ระดับขึ้นมาไปจนถึงแบบที่มีค่าใช้จ่ายในการใช้งาน แต่ฟีเจอร์ก็ครบครัน จัดเต็ม โดยเครื่องมือเช็คอันดับเว็บไซต์ที่เราอยากแนะนำ มีดังนี้
Incognito Mode คือการเข้าใช้งานเว็บไซต์ด้วยโหมดไม่ระบุตัวตน เป็นอีกหนึ่งโหมดการใช้งานที่ซ่อนอยู่ใน Google Chrome หน้าตาเหมือนและการใช้งานเหมือนกันทุกอย่าง (แค่ Incognito จะเป็นสีดำ)โดยความพิเศษอยู่ตรงที่ เมื่อคุณเปิดใช้งาน Incognito Mode และทำการค้นหาด้วย Keyword อะไรก็ตาม ทางระบบของ Google จะไม่เก็บประวัติการท่องเว็บ คุกกี้ ข้อมูลเว็บไซต์หรือข้อมูลอื่น ๆ ที่คุณเคยใช้งาน Google มา
ดังนั้นอันดับที่คุณเห็นผ่าน Incognito จึงเป็นอันดับที่แท้จริงของเว็บไซต์คุณบนหน้าการแสดงผลการค้นหานั่นเอง ถือเป็นวิธีที่ง่าย ฟรี และรวดเร็วที่สุดในการเช็คอันดับเว็บไซต์
1.1 เข้า Google Chrome แล้วกด Ctrl+Shift+N หรือเข้าไปกดที่ Setting (บนขวาของหน้า Chrome) > New Incognito Windows ก็ได้เหมือนกัน
1.2 เมื่อเข้าหน้าของ Incognito Mode ได้แล้ว จากนั้นใส่ Keyword ที่คุณแพลนไว้ว่าเป็น Keyword ที่อยากให้เว็บไซต์ของคุณติดอันดับ เพื่อเช็คดูเลยว่าตอนนี้เว็บไซต์ของคุณอยู่อันดับที่เท่าไรใน Search Engine
Google Search Console ถือเป็นอีกเครื่องมือในการวิเคราะห์อันดับเว็บไซต์ได้อย่างละเอียดและครบถ้วน (สำคัญตรงฟรี) ที่นอกจากเรื่องอันดับเว็บไซต์แล้ว ยังวิเคราะห์สถิติ หรือ Error ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในเว็บไซต์ได้อย่างแม่นยำ เหมาะสำหรับคนที่ต้องการนำผลลัพธ์ของการทำ SEO ในแคมเปญหรือโปรเจกต์ต่าง ๆ ไปพัฒนาหาจุดบกพร่องต่อ
แต่ในการใช้เครื่องมือนี้ คุณต้องทำการติดตั้ง Google Search Console กับเว็บไซต์ของคุณเสียก่อน โดยหลังจากที่คุณติดตั้ง Google Search Console เข้ากับเว็บไซต์คุณเรียบร้อยแล้ว ก็สามารถเริ่มเช็คอันดับเว็บไซต์ด้วยเครื่องมือตัวนี้ได้เลย
2.1 เลือก “Search Result” เพื่อเช็คอันดับของเว็บไซต์
หลังจากที่คุณติดตั้ง Google Search Console เข้ากับเว็บไซต์ของคุณแล้ว และให้เวลาระบบในการศึกษาข้อมูลของเว็บไซต์คุณมาสักระยะ (แนะนำมากกว่า 2 เดือนขึ้น) ให้กดที่ Search Result
2.2 จากนั้นกด “Page” เพื่อทำระบุและกรอก URL ของเว็บไซต์ที่ต้องการเช็คอันดับลงไป
2.3 กด “Average Position” แล้วผลลัพธ์ในการค้นหาจะปรากฏที่ด้านล่าง
serprobot คือ เครื่องมือในการเช็คอันดับเว็บไซต์ ในแต่ละคีย์เวิร์ดที่มีการค้นหาเพื่อระบุว่าเว็บไซต์เราอยู่อันดับที่เท่าไร และยังสามารถระบุได้ด้วยว่าเว็บเพจหน้าไหน (หรือคอนเทนต์อะไร) ที่ติดอันดับนั้น แต่ถ้าในกรณีที่เว็บไซต์ของคุณไม่ติด 100 อันดับแรกก็จะไม่แสดงผลอะไรขึ้นมา
โดยจุดเด่นของ serprobot คือใช้งานง่าย สะดวก ซึ่งจะไม่ได้ข้อมูลในเชิงละเอียดเท่า Google Search Console แต่อย่างน้อยก็ละเอียดกว่า Incognito Mode
3.1 เข้าไปที่เว็บไซต์ www.serprobot.com จากนั้นกดที่ Free SERP Check ปุ่มสีฟ้า
3.2 กรอกประเทศให้เป็น Thailand > ใส่ชื่อ Domain ของเว็บไซต์คุณ > ใส่ Keyword ที่คุณต้องการเช็คอันดับลงไป (ใส่ได้มากสุด 5 Keyword) เรียบร้อยแล้วกด Check SERP Now!
3.3 เมื่อกด Check แล้วระบบจะขึ้นตำแหน่งของทุกเพจในเว็บไซต์ ที่ติดอันดับ Keyword ที่คุณได้ระบุไปขึ้นมา สังเกตง่าย ๆ ว่าถ้าอันไหนขึ้น Top Ten แสดงว่าเว็บเพจหรือคอนเทนต์นั้นติดอยู่ในหน้า 1-2 Google แน่นอน
Proranktracker เป็นเครื่องมือเช็คอันดับเว็บไซต์แบบพรีเมียม หรือต้องเสียค่าบริการในการใช้งาน ซึ่งก็มีแพคเกจหลากหลายตามความต้องการของคุณ ถ้าเทียบจริง ๆ แล้วการใช้งานในการเช็คอันดับเว็บไซต์ ส่วนตัวผมมองว่ามีความใกล้เคียงกับ Google Search Console หรือ Serprobot พอสมควร เพราะต้องระบุ Domain + Keyword เพื่อการค้นหา
แต่ Proranktracker จะมีฟีเจอร์การใช้งานง่ายและเอื้อต่อการทำงานต่าง ๆ มากกว่า เช่น สามารถทำ Report ได้จากเว็บไซต์เลย, มี Application ของตัวเอง อัปเดตกันได้แบบ Real Time
โดยราคาของ Proranktracker จะเริ่มตั้งแต่แพคเกจแบบ Freemium ทดลองใช้งานได้ 30 วัน ระบุคำค้นหาได้ 20 Keyword แต่ถ้าต้องการใช้งานในระยะยาวจริง ๆ แนะนำแพคเกจแบบเสียเงินดีกว่าครับ มีราคาให้เลือกตั้งแต่ แพคเกจ Starter ราคา 13.5$ (ราว 436 บาท/เดือน) , แพคเกจ Pro ราคา 89$ (ราว 2,875บาท/เดือน) และแพคเกจ Agency เหมาะสำหรับองค์กรในราคา 89$ (ราว 5,815 บาท/เดือน)
ซึ่งฟีเจอร์ที่ใช้งานก็จะมีความแตกต่างกันไปตามราคาถูก-แพง นั่นเอง ดังนั้นก็ต้องดูตามความเหมาะสมในการใช้งานเป็นสำคัญครับ
Ahrefs คือเครื่องมือสำหรับการทำ SEO ครบวงจร ครอบคลุมทุกการวัดผลที่การทำ SEO พึงต้องมี ไม่ว่าจะเป็น Backilnk Checker, Keyword Exploer, Site Audit หรือแม้แต่เช็คอันดับเว็บไซต์ก็ทำได้สบายๆ แถมพกความสามารถในการใช้งานที่วิเคราะห์วิเคราะห์และรายงานผลเชิงลึกได้อย่างละเอียด ช่วยให้การทำ SEO มีประสิทธิภาพ วัดผลได้แม่นยำกว่าเดิมแน่นอน
โดยในการเช็คอันดับเว็บไซต์ เมื่อชำระค่าบริการแล้วคุณสามารถเข้าไปใช้งานได้เลย (หลังจากกรอก Domain + Keyword) โดยไปที่ฟีเจอร์ Rank Tracker ซึ่งในหน้า Dashboard ก็จะมีการแสดงผลแบบแผนภูมิและกราฟให้เห็นความเคลื่อนไหวแบบรายวันกันเลย
สำหรับราคาของ Ahrefs ต้องยอมรับว่าเป็นเครื่องมือที่ราคาสูงใช่เล่น เพราะมีหลากหลายราคาเริ่มต้นตั้งแต่ 99$ (ราว 3,198 บาท/เดือน) ไปจนถึงแบบแพงที่สุดสำหรับการใช้งานในองค์กรขนาดใหญ่ที่ 999$ (ราว 32,277$ บาท/เดือน) ซึ่งแน่นอนครับว่าฟีเจอร์ที่ใช้งานก็จะมีความแตกต่างกันไปตามราคาถูก-แพงเหมือนกัน แนะนำว่าถ้าบริษัทไหน ต้องการยกระดับการทำ SEO ให้ได้ประสิทธิภาพมากขึ้น Ahrefs ก็คุ้มค่าที่จะลงทุนครับ
อ่านราคาและฟีเจอร์ในแพคเกจต่าง ๆ ของ Ahrefs ทั้งหมดได้ที่นี่
Ubersuggest คือเครื่องมือสำหรับการจัดการ SEO ครบวงจร ถูกพัฒนาขึ้นมาโดย Neil Patel ผู้เชี่ยวชาญด้านการทำ SEO ที่ถือว่าเป็น “ตัวจริง” ในสายนี้มาเป็นระยะเวลานาน และถือเป็นผู้ที่มีอิทธิพลเกี่ยวกับการตลาดออนไลน์มาก ๆ
โดยความสามารถของ Ubersuggest ที่เด่นที่สุดก็คือการเป็นเครื่องมือด้านการทำ Keyword Research ที่ให้ผลลัพธ์ได้ดีและใช้งานง่าย แต่ก็มีอีกไม่น้อยที่ยังไม่ทราบว่า Ubersuggest ก็สามารถเช็คอันดับเว็บไซต์ได้ผ่านฟีเจอร์ SEO Keyword Ranking ที่จะแสดงผลในหน้า Dashboard แบบแผนภูมิแท่ง
ซึ่งฟีเจอร์เช็คอันดับเว็บไซต์นี้จะแบ่งกลุ่มของคีย์เวิร์ดเอาไว้เป็น 4 กลุ่มตามอันดับของเว็บไซต์ที่มีการติด SEO ซึ่งได้แก่อันดับที่ 1 – 3 (สีเขียว), อันดับที่ 4 – 10 (สีเหลือง) , อันดับที่ 11 – 50 (สีส้ม) และอันดับที่ 51 – 100 (สีแดง) ซึ่งคุณจะได้เห็นพัฒนาการและอัตราการเปลี่ยนแปลงของอันดับเว็บไซต์แต่ละเพจบน Google เป็นรายเดือนได้อย่างชัดเจน
ส่วนราคาของการใช้งาน Ubersuggest นั้นก็มีให้เลือกอยู่ 4 แพคเกจ มีตั้งแต่แพคเกจแบบ Free Trial สำหรับทดลองใช้งานสั้น ๆ (มีข้อจำกัดการค้นหาเยอะ) แต่ถ้าใครที่ลองแล้วติดใจอยากใช้บริการ Ubersuggest แบบเต็มฟีเจอร์ ก็มีราคาให้เลือกเริ่มต้นที่แพคเกจ Individual 12$ (ราว 387 บาท/เดือน) , แพคเกจ Business 20$ (ราว 646 บาท/เดือน) และ Enterprise / Agency 40$ (ราว 1,292 บาท/เดือน)
ต้องบอกเลยว่าถ้าสังเกตดี ๆ จาก 3 ตัวที่เราได้ทำการแนะนำมา Ubersuggest นี่แหละที่มีราคาถูกที่สุด ต่อให้เป็นแพคเกจแบบองค์กร (แพงสุด)ก็ราคาเพียงตกเดือนละ 1,200 บาทกว่า ๆ เท่านั้นเอง ซึ่งฟีเจอร์ก็ค่อนข้างครบครันในระดับหนึ่ง ประกอบกับหน้า Dashboard และการใช้งานที่ง่ายมากแล้ว Ubersuggest ถือเป็นอีกทางเลือกที่ดีในการหาเครื่องมือเช็คอันดับเว็บไซต์และการทำ SEO อื่น ๆ ให้กับธุรกิจของคุณเลย
การเช็คอันดับเว็บไซต์นั้นนอกจากจะเป็นหนึ่งในวิธีการติดตามและพัฒนาผลการทำ SEO ของเราแล้ว ยังเป็นเหมือนกระบวนการเพิ่มยอด Traffic ให้กับเว็บไซต์เพื่อการทำให้ธุรกิจของคุณเติบโตและประสบความสำเร็จอย่างยั่งยืน
รวมถึงการเรียนรู้ในการใช้เครื่องมือเช็คอันดับเว็บไซต์ต่าง ๆ ก็เป็นอีกปัจจัยสำคัญที่ทำให้คุณสามารถวิเคราะห์ผลการทำ SEO ในแต่ละองค์ประกอบได้อย่างมีประสิทธิภาพ ส่งผลต่อภาพรวมของการทำการตลาดออนไลน์ให้กับธุรกิจ
แหล่งอ้างอิง : https://nerdoptimize.com/check-website-position/