Monday - Sunday : 06.00 A.M. - 11.59 P.M.
KNmasters
เพิ่มเพื่อน
Knmasters
เว็บไซต์ (Website) ความหมายของเว็บไซต์ ประโยชน์ที่สำคัญ และองค์ประกอบต่างๆ
ความหมายของเว็บไซต์

Share This Post

เว็บไซต์เป็นเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพในการเผยแพร่ นำเสนอข้อมูล เรื่องราวและข่าวสาร ด้วยการกำเนิดของอินเทอร์เน็ต เว็บไซต์ได้กลายเป็นส่วนสำคัญในชีวิตของเรา และหากพูดถึงเว็บไซต์ เว็บไซต์คือชุดของหน้าเว็บที่เชื่อมต่อกันและใช้ชื่อโดเมนร่วมกัน เว็บเพจเหล่านี้อาจมีข้อความ รูปภาพ วิดีโอ เสียง และองค์ประกอบมัลติมีเดียอื่นๆ วัตถุประสงค์หลักของเว็บไซต์คือการให้ข้อมูลแก่ผู้ใช้และทำให้พวกเขาสามารถโต้ตอบกับเนื้อหาได้หลายวิธี อีกทั้งยังสามารถใช้เว็บไซต์เพื่อวัตถุประสงค์ที่หลากหลาย ตั้งแต่บล็อกส่วนตัวและพอร์ตโฟลิโอ ไปจนถึงร้านค้าอีคอมเมิร์ซและเว็บไซต์องค์กร นอกจากนี้ยังสามารถใช้เพื่อการตลาดและการโฆษณา ตลอดจนการมีส่วนร่วมกับสังคมและชุมชน

ประโยชน์หลักประการหนึ่งของเว็บไซต์คือช่วยให้คุณเข้าถึงผู้ชมทั่วโลก ไม่เหมือนกับช่องทางสื่อดั้งเดิม เช่น ทีวีหรือสิ่งพิมพ์ เว็บไซต์สามารถเข้าถึงได้จากทุกที่ในโลก ตราบใดที่มีการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต ซึ่งหมายความว่าคุณสามารถเชื่อมต่อกับผู้คนจากทั่วโลกและแบ่งปันข้อความของคุณกับพวกเขาได้

ความหมายของเว็บไซต์ (Website) และองค์ประกอบต่างๆ

เว็บไซต์ (Website) หมายถึง หน้าเวบเพจที่ได้จัดทำขึ้น เพื่อถ่ายทอด นำเสนอ ข้อมูลต่างๆผ่านทางคอมพิวเตอร์และอินเทอร์เน็ต (Internet) โดยจะมีหน้าเว็บเพจหลายๆหน้าที่เชื่อมเข้ากับไฮเปอร์ลิ้งค์ (Hyperlink) เพื่อให้สามารถเปิดไปยังหน้าเว็บเพจต่างๆ ได้อย่างง่ายดาย และจะถูกจัดเก็บไว้ใน WWW. (เวิลด์ไวด์เว็บ) เว็บไซต์ (Website) โดยส่วนใหญ่นั้นมีทั้งแบบเว็บไซต์ (website) ที่ผู้ใช้สามารถเข้าไปเยี่ยมชมได้โดยไม่มีค่าบริการหรือค่าใช้จ่าย และอีกแบบคือเว็บไซต์ (Website) ที่ต้องชำระค่าสมัครสมาชิกและเสียค่าบริการก่อนจะสามารถเข้าถึงเว็บไซต์ (Website)ได้ ซื้อข้อมูลในเว็บก็จะมีรูปแบบที่หลากหลายแตกต่างกันไป ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความต้องการของเจ้าของเว็บไซต์ (Website) ในการเลือกที่จะนำเสนอข้อมูลแบบใด การเรียกดูเว็บไซต์ (Website) จะเรียกดูผ่านทางซอฟต์แวร์ ในลักษณะของเบราว์เซอร์ (Browser)

ไฮเปอร์ลิ้งค์ (Hyperlink) คือ Hyperlink หรือ เราจะเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า Link เป็นส่วนหนึ่งของ GUI Widget และเชื่อมโยงกับ Internet โดยมีลักษณะเป็นคำ, ข้อความ และรูปภาพ แทนข้อความเดิมๆที่อยู่บนเว็บเพจ จะมีความโดนเด่นกว่าตัวอื่นๆ สามารถใส่เป็นข้อความสีหรือลูกเล่นต่างๆเพื่อให้เกิดความสำคัญของข้อความนั้นและสามารถคลิกเข้าไปเพื่อเกิดการเชื่อมต่อโดยส่งให้ผู้ใช้เปิดหน้าเว็บเพจที่ต้องการหรือ Web browser ต้องการเปิดเอกสารต่อไป แทนการพิมพ์ในแถบ Web browser โดยตรง

WWW. (เวิลด์ไวด์เว็บ) ย่อมาจาก Wold Wide Web คือ เครือข่ายที่เชื่อมต่อกันทั่วโลก เรามักเรียกย่อๆกันว่า เว็บ คือรูปแบบหนึ่งของระบบการเชื่อมโยงเครือข่ายข่าวสาร ใช้ในการค้นหาข้อมูลข่าวสารบน Internet จากแหล่งข้อมูลหนึ่ง ไปยังแหล่ง ข้อมูลที่อยู่ห่างไกล ให้มีความง่ายต่อการใช้งานมากที่สุด

เว็บเบราว์เซอร์ (Web browser) คือโปรแกรมคอมพิวเตอร์ที่ใช้ในการท่องเว็บ และมีการจัดการข้อมูลสารสนเทศต่างๆ ด้วยภาษาเฉพาะเช่น ภาษา HTML ซึ่งก็เปรียบได้ว่าเป็นเครื่องมือที่ใช้ในการติดต่อสื่อสารกับเครือข่ายคอมพิวเตอร์ขนาดใหญ่ที่เรียกว่า WWW. (เวิลด์ไวด์เว็บ) นอกจากนี้ยังสามารถดูเอกสารในเว็บเซิร์ฟเวอร์ได้ ไม่ว่าเว็บนั้นๆจะแสดงข้อมูลออกมาในลักษณะใด ภาพ ระบบมัลติมีเดีย รูปภาพหรือข้อความ ในปัจจุบันเว็บเบราว์เซอร์ที่รองรับระบบ HTML5 สามารถอ่าน CSS3 ได้อย่างสวยงาม และกำลังได้รับความนิยมมากที่สุด มี 4 ประเภท ดังนี้

โฮมเพจ (Home Page) คือหน้าแรกของเว็บไซต์ (Website) เมื่อเปิดเข้าไปยังเว็บไซต์ใดเว็บไซต์หนึ่ง โดยหน้าแรกของเว็บไซต์นี้จะรวบรวมเมนูและเรื่องราวต่างๆที่เว็บไซต์ต้องการบอกไว้มากมาย นับว่าเป็นส่วนที่สำคัญเป็นอย่างมาก เพราะหากหน้าแรกของเว็บไซต์มีการออกแบบได้อย่างสวยงามและจัดการหน้าได้เข้าใจง่ายและเป็นระเบียบก็จะทำให้ผู้ชมเว็บไซต์เกิดความสนใจและทำให้มีความอยากเข้าเว็บไซต์มากขึ้น

เว็บเพจ (Web page) คือหน้าเอกสารต่างๆ ที่อยู่ในรูปแบบของ HTML โดยจะมีการนำเสนอข้อมูลหรือเรื่องราวต่างๆเป็นหน้าๆไป และใช้การเชื่อมโยงเพื่อให้สามารถคลิกไปหน้าเว็บเพจแต่ละหน้าได้ง่ายขึ้น

เว็บ Static เป็นเว็บไซต์ที่แสดงผลเพื่อให้ความรู้หรือข้อมูลแก่ผู้เข้าชมเว็บไซต์เพียงอย่างเดียว “ไม่สามารถโต้ตอบหรือรับส่งข้อมูลในรูปแบบต่างๆกับผู้ที่เข้าชมเว็บได้” ซึ้งส่วนใหญ่แล้วเว็บไซต์ (Website) ประเภทนี้ ก็จะเป็นเว็บ Gallery รูปภาพ เว็บของบริษัทหรือองค์กรต่างๆ ที่ต้องการให้ข้อมูล ข่าวสาร ความรู้และเว็บให้ความรู้ทั่วไป

เว็บ Dynamic เป็นเว็บไซต์ที่สามารถตอบโต้ และรับส่งข้อมูลต่างๆระหว่างผู้เข้าชมเว็บไซต์ได้ ซึ่งเว็บไซต์เหล่านี้ส่วนใหญ่ก็จะมีระบบเว็บบอร์ดด้วย รวมไปถึง Social Media (โซเชียลมีเดีย) ประเภทต่างๆ มีการสมัครสมาชิก หรือเป็นเว็บขายสินค้าออนไลน์ที่มีระบบที่ผู้ขายสามารถแชทกับลูกค้าได้ เป็นต้น

Web Service เป็นบริการด้านข้อมูล ที่สามารถดึงข้อมูลของอีกเว็บนึงขึ้นไปปรากฏ แสดงผลในอีกเว็บนึงได้

Hosting เป็นพื้นที่สำหรับคอมพิวเตอร์แม่ข่าย ที่ทางผู้ให้บริการได้ทำการจัดสรรมาให้เช่า โดยมีการเรียกเก็บค่าบริการ ส่วนใหญ่จะมีการให้เช่าเป็นรายเดือน รายปีหรือตามแต่ผู้ให้บริการกำหนด 

อินเตอร์เน็ต (Internet) เป็นตัวกลางในการเชื่อมต่อให้ผู้คนสามารถท่องเว้บไซต์ต่างๆได้อย่างสะดวกและง่ายดาย และช่วยให้กลุ่มองค์กร ธุรกิจหรือบริษัทสามารถนำเสนอข้อมูลของตนลงบนอินเตอร์เน็ต ผ่านทางเว็บไซต์ เป็นการให้ความรู้และแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารต่อกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ประโยชน์ของการทำเว็บไซต์ (Website) เว็บไซต์ (Website) ความหมายของเว็บไซต์ ประโยชน์ที่สำคัญ และองค์ประกอบต่างๆ

ประโยชน์ของการทำเว็บไซต์ (Website)

การทำเว็บไซต์นั้นมีประโยชน์มากมาย ไม่เพียงแต่ประโยชน์ในการนำเสนอข้อมูลเท่านั้น แต่ยังมีประโยชน์อื่นๆ อีกมากมาย ได้แก่

  • ขยายช่องทางในการทำธุรกิจ ขายสินค้าและบริการ ซึ่งสามารถเข้าถึงกลุ่มลูกค้าที่จ้องการได้มากขึ้น และไม่ทำให้เสียค่าใช้จ่ายที่สูงเกินไป
  • สำหรับการทำธุรกิจร้านค้าออนไลน์หรือขายของบนเว็บไซต์ จะทำให้มีหน้าร้านเป็นของตัวเอง ซึ่งก็คือโฮมเพจ และเป็นการเปิดตัวสินค้าสู่ตลาดโลก
  • เป็นการเสริมสร้างภาพลักษณะขององค์กร ร้านค้าและบริษัท ให้มีความน่าเชื่อถือ เข้าถึงได้ และทันสมัยมากยิ่งขึ้น
  • มีความเป็นสากล ด้วยช่องทางการติดต่อลูกค้าที่หลากหลาย ทั้งอีเมล์ และโซเชียลมีเดียต่างๆ เช่น Facebook Line และอื่นๆ
  • เพิ่มความสะดวกให้กับกลุ่มผู้บริโภค โดยสามารถเลือกซื้อสินค้าหรือบริการผ่านทางเว็บไซต์ได้ตลอดเวลา เพื่อเป็นอีก 1 ช่องทาง ให้การให้ลูกค้าได้ศึกษาข้อมูลในการประกอบการตัดสินใจซื้อ
  • ช่วยโฆษณา ให้เป็นที่รู้จักมากยิ่งขึ้นในโลกของออนไลน์ ทั้งตัวองค์กรเองและสินค้าให้เป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลาย ทั้งในประเทศและต่างประเทศ
  • ทำหน้าที่ในการส่งเสริมการขาย และบริการของบริษัท
  • ช่วยยกระดับมาตรฐานในการซื้อขายระหว่างประเทศ และสามารถเสริมสร้างธุรกิจให้มีความแข็งแรงได้ดี

ขั้นตอนในการพัฒนาเว็บไซต์ (Website)

นอกเหนือจากการสร้างเว็บไซต์ขึ้นมาแล้ว ก็ต้องมีการพัฒนาเว็บไซต์อยู่ตลอดเวลาเพื่อให้เว็บไซต์มีความทันสมัยและตามทันเทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา โดยมีขั้นตอนในการพัฒนาเว็บไซต์ดังนี้

  1. กำหนดวัตถุประสงค์ว่าต้องการพัฒนาเว็บไซต์อย่างไรบ้าง เป็นไปในทิศทางใด เน้นเนื้อหาในเว็บไซต์เกี่ยวกับอะไร และพัฒนาในส่วนไหนอย่างไร
  2. กำหนดกลุ่มเป้าหมาย ที่ต้องการให้เข้าชมเว็บไซต์ของเรามากที่สุด เพื่อที่จะได้เลือกวิธีการนำเสนอที่เหมาะสมที่สุด ในส่วนของรูปภาพ กราฟิก หรือแม้กระมั่งโทนสี
  3. เตรียมแหล่งข้อมูลที่จะนำเนื้อหาสาระมานำเสนอ ซึ่งแหล่งข้อมูลที่นำมาใช้ต้องมีความน่าเชื่อถือและครบถ้วนสมบูรณ์
  4. เตรียมบุคลากรที่มีความรู้ความสามารถในด้านการพัฒนาเว็บไซต์ให้พร้อม โดยไม่มีการจำกัดจำนวนคน ขึ้นอยู่กับหน้าที่ ตำแหน่งที่ได้มอบหมายไป
  5. เตรียมทรัพยากร ที่จำเป็นต้องใช้สำหรับการพัฒนาเว็บไซต์ เช่น โปรแกรมต่างๆ มัลติมีเดีย เป็นต้น
  6. เริ่มลงมือสร้างหากได้ข้อมูลที่ถูกต้อง น่าเชื่อถือครบถ้วนแล้ว จึงนำข้อมูลที่ได้มา มาสร้างเป็นเว็บไซต์ เพื่อให้เหมาะสมกับ 5 ข้อ ที่กล่าวมาข้างต้น
  7. ปรับปรุงพัฒนา หลังจากจัดทำเว็บไซต์เสร็จเรียบร้อยแล้ว สิ่งที่สำคัญอีกอย่างหนึ่งคือการทำการตลาดออนไลน์ ปรับปรุง SEO มีการดูแลเว็บไซต์ให้เหมาะสม เพื่อส่งเสริมวัตถุประสงค์ในการดำเนินงาน เพราะเว็บไซต์ที่ดีที่สุด คือเว็บไซต์ที่ยังสร้างไม่เสร็จ พร้อมสำหรับการพัฒนาไปข้างหน้าอย่างต่อเนื่อง ส่วนเว็บไซต์ที่สร้างเสร็จ คือเว็บไซต์ที่ตายไปแล้ว

HTML คืออะไร?

HTML คือ ภาษาประเภท Markup Language ที่ใช้ในการสร้างเว็บเพจขึ้นมา โดยมีแม่แบบที่มาจากภาษา SGML โดย HTML จะเป็นภาษาในการสร้างเว็บที่สามารถเรียนรู้และทำความเข้าใจได้ง่าย ซึ่งในปัจจุบันก็มีการนำมาใช้กันอย่างแพร่หลายและมีการพัฒนาและกำหนดมาตรฐานจากองค์กร World Wide Web Consortium (W3C)

CSS คืออะไร?

CSS คือ ภาษาที่ใช้สำหรับตกแต่งเอกสาร HTML/XHTML ให้มีหน้าตา สีสัน ระยะห่าง พื้นหลัง เส้นขอบและอื่นๆ ตามที่ต้องการ CSS ย่อมาจาก Cascading Style Sheets มีลักษณะเป็นภาษาที่มีรูปแบบในการเขียน Syntax แบบเฉพาะและได้ถูกกำหนดมาตรฐานโดย W3C เป็นภาษาหนึ่งในการตกแต่งเว็บไซต์ ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลาย

ประโยชน์ของ CSS

CSS มีประโยชน์อย่างหลากหลาย ซึ่งได้แก่

  1. ช่วยให้เนื้อหาภายในเอกสาร HTML มีความเข้าใจได้ง่ายขึ้นและในการแก้ไขเอกสารก็สามารถทำได้ง่ายกว่าเดิม เพราะการใช้ CSS จะช่วยลดการใช้ภาษา HTML ลงได้ในระดับหนึ่ง และแยกระหว่างเนื้อหากับรูปแบบในการแสดงผลได้อย่างชัดเจน
  2. ทำให้สามารถดาวน์โหลดไฟล์ได้เร็ว เนื่องจาก code ในเอกสาร HTML ลดลง จึงทำให้ไฟล์มีขนาดเล็กลง
  3. สามารถกำหนดรูปแบบการแสดผลจากคำสั่ง Style sheet ชุดเดียวกัน ให้มีการแสดงผลในเอกสารแบบเดียวทั้งหน้าหรือในทุกๆ หน้าได้ ช่วยลดเวลาในการปรับปรุงและทำให้การสร้างเอกสารบนเว็บมีความรวดเร็วยิ่งขึ้น นอกจากนี้ยังสามารถควบคุมการแสดงผล ให้คล้ายหรือเหมือนกันได้ในหลาย Web Browser
  4. ช่วยในการกำหนดการแสดงผลในรูปแบบที่มีความเหมาะกับสื่อต่างๆ ได้เป็นอย่างดี
  5. ทำให้เว็บไซต์มีความเป็นมาตรฐานมากขึ้นและมีความทันสมัย สามารถรองรับการใช้งานในอนาคตได้ดี

โดเมน คืออะไร?

โดเมเนม (Domain Name) คือ ชื่อที่จะใช้ระบุลงไปในคอมพิวเตอร์เพื่อให้สามารถค้นหาได้ในโดเมนเนมซีสเทม โดยการตั้งชื่อโดเมนนั้น จะต้องเป็นชื่อที่ง่ายต่อการจดจำ เพื่อให้สามารถเข้าใช้งานได้ง่ายขึ้น

เงื่อนไขในการตั้งชื่อโดเมนเนม จะต้องมีตัวอักษรภาษาอังกฤษ ตัวเลขและ “-” คั่นด้วย “.” มีความยาวตั้งแต่ 1 ถึง 63 ตัวอักษร และไม่ว่าจะเป็นตัวอักษรตัวใหญ่หรือตัวเล็กก็ถือว่าเหมือนกัน เช่น

  • 1knmasters.com (ถูก)
  • oneknmasters.com (ถูก)
  • 1-knmasters.com (ถูก)
  • 1_knmasters.com (ผิด)

เว็บไซต์เป็นอีกหนึ่งสิ่งสำคัญในการท่องอินเทอร์เน็ต เพราะหากไม่มีเว็บไซต์ก็ไม่สามารถเข้าถึงข้อมูลข่าวสารต่างๆ ได้ โดยเว็บไซต์ก็มีองค์ประกอบที่หลากหลายดังที่กล่าวไปข้างต้น

Table of Contents