ฟิลเตอร์ ND คืออะไร? ทำไมช่างภาพและช่างวิดีโอต้องใช้?

หากคุณเป็นช่างภาพหรือช่างวิดีโอที่ต้องการควบคุมแสงให้ดียิ่งขึ้น ฟิลเตอร์ ND (Neutral Density Filter) เป็นอุปกรณ์สำคัญที่ช่วยให้คุณสามารถลดปริมาณแสงที่เข้าสู่เลนส์ได้โดยไม่ทำให้สีของภาพเปลี่ยนแปลง ฟิลเตอร์ ND ถูกใช้กันอย่างแพร่หลายในงานถ่ายภาพกลางแจ้ง งานวิดีโอ และการถ่ายภาพ Long Exposure ในบทความนี้ เราจะมาทำความเข้าใจว่า ฟิลเตอร์ ND คืออะไร? มีประเภทอะไรบ้าง? และควรเลือกใช้อย่างไร?

หัวข้อ

ฟิลเตอร์ ND คืออะไร?

ฟิลเตอร์ ND (Neutral Density Filter) คือฟิลเตอร์ที่ออกแบบมาเพื่อลดปริมาณแสงที่เข้าสู่เซ็นเซอร์ของกล้อง โดยไม่เปลี่ยนสีของภาพ ซึ่งช่วยให้สามารถใช้ความเร็วชัตเตอร์ที่ช้าลง หรือใช้ค่ารูรับแสงกว้างขึ้นในสภาพแสงจ้าได้ ฟิลเตอร์ ND มักใช้ใน การถ่ายภาพวิว ทะเล น้ำตก วิดีโอซีนม่า และการถ่ายภาพยนตร์

คุณสมบัติหลักของฟิลเตอร์ ND

ลดปริมาณแสงที่เข้าสู่เลนส์
ไม่ทำให้สีของภาพผิดเพี้ยน
ช่วยให้สามารถใช้ความเร็วชัตเตอร์ต่ำ (Long Exposure)
ใช้ในงานวิดีโอเพื่อให้ได้ Motion Blur ที่สมูท

ประเภทของฟิลเตอร์ ND

ฟิลเตอร์ ND มีหลากหลายประเภทขึ้นอยู่กับลักษณะการใช้งานและระดับของการลดแสง เราสามารถแบ่งประเภทได้ดังนี้:

1. ฟิลเตอร์ ND แบบค่าคงที่ (Fixed ND Filter)

มีค่าการลดแสงที่แน่นอน เช่น ND2, ND4, ND8, ND16, ND32, ND64, ND1000 เป็นต้น
เหมาะสำหรับการถ่ายภาพที่ต้องการความแม่นยำในการลดแสง

2. ฟิลเตอร์ ND แบบปรับค่าได้ (Variable ND Filter)

สามารถหมุนปรับระดับ ND ได้ เช่น ND2 – ND400
เหมาะสำหรับการถ่ายวิดีโอที่ต้องปรับแสงบ่อย ๆ

3. ฟิลเตอร์ ND แบบ Graduated ND (GND)

เป็นฟิลเตอร์ที่มีการไล่ระดับความเข้ม เหมาะสำหรับการถ่ายภาพวิวที่มีความต่างของแสงสูง เช่น ท้องฟ้ากับพื้นดิน

ค่าการลดแสงของฟิลเตอร์ ND มีอะไรบ้าง?

ฟิลเตอร์ ND มีค่าต่าง ๆ ที่บอกระดับของการลดแสง โดยค่าพื้นฐานที่พบบ่อย ได้แก่

ค่าฟิลเตอร์ ND	ลดแสงกี่สต็อป (Stops)	ลดปริมาณแสง (%)
ND2	1 Stop	50%
ND4	2 Stops	75%
ND8	3 Stops	87.5%
ND16	4 Stops	94%
ND32	5 Stops	97%
ND64	6 Stops	98.5%
ND1000	10 Stops	99.9%

ทำไมต้องใช้ฟิลเตอร์ ND?

ฟิลเตอร์ ND ถูกใช้ในหลายสถานการณ์ที่ต้องควบคุมแสงเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่สวยงามขึ้น เช่น

1. การถ่ายภาพ Long Exposure

ทำให้น้ำตกดูนุ่มนวล (Silky Water)
ทำให้เมฆดูเป็นเส้นสายสวยงาม
ใช้ในภาพถ่ายกลางวันโดยไม่ต้องปรับ ISO สูงเกินไป

2. การถ่ายภาพพอร์ตเทรตกลางแจ้ง

ช่วยให้สามารถใช้รูรับแสงกว้าง (f/1.4 – f/2.8) เพื่อสร้างโบเก้สวย ๆ แม้ในที่แสงจ้า
ทำให้พื้นหลังเบลอขึ้นโดยไม่ต้องใช้สปีดชัตเตอร์สูงเกินไป

3. การถ่ายวิดีโอ

ทำให้ Motion Blur เป็นธรรมชาติ ตามกฎ 180-degree shutter rule (ชัตเตอร์สปีดควรเป็น 2 เท่าของเฟรมเรต เช่น 1/50 วินาทีที่ 25fps)
ป้องกันไฮไลต์ที่สว่างเกินไปในฉากกลางแจ้ง

วิธีเลือกฟิลเตอร์ ND ที่เหมาะสม

เลือกประเภทที่เหมาะกับงานของคุณ – หากถ่ายภาพนิ่ง แนะนำ Fixed ND แต่หากถ่ายวิดีโอ แนะนำ Variable ND
ตรวจสอบขนาดของฟิลเตอร์ – ต้องตรงกับขนาดหน้าเลนส์ เช่น 67mm, 72mm, 82mm
เลือกแบรนด์คุณภาพ – ใช้ฟิลเตอร์จากแบรนด์ที่ดีเพื่อลดปัญหา Color Cast เช่น B+W, HOYA, Tiffen, NiSi, PolarPro
เลือกความเข้มที่เหมาะสม – ถ้าถ่ายกลางแจ้ง ใช้ ND8-ND64 ถ้าถ่าย Long Exposure ใช้ ND1000

แบรนด์ฟิลเตอร์ ND ยอดนิยม

B+W ND Filter

ให้สีที่แม่นยำ ไม่เกิด Color Cast
เคลือบสารป้องกันรอยขีดข่วนและน้ำมัน

HOYA Pro ND

ราคาคุ้มค่า เหมาะสำหรับช่างภาพมืออาชีพ
ลดแสงโดยไม่ลดคุณภาพของภาพ

Tiffen Variable ND

เหมาะสำหรับงานวิดีโอ
หมุนปรับค่า ND ได้สะดวก

NiSi ND Filter

เหมาะสำหรับ Long Exposure
ลดแสงโดยไม่เสียรายละเอียดของภาพ

PolarPro ND Filter

เหมาะสำหรับการถ่ายวิดีโอระดับมืออาชีพ
เคลือบ Multi-Coating ลดแสงสะท้อน

สรุป

ฟิลเตอร์ ND (Neutral Density Filter) เป็นเครื่องมือสำคัญสำหรับการถ่ายภาพและวิดีโอที่ช่วยให้ควบคุมแสงได้ดียิ่งขึ้น สามารถใช้ในการถ่ายภาพ Long Exposure, วิดีโอ Motion Blur, และพอร์ตเทรตกลางแจ้ง ได้อย่างมีประสิทธิภาพ การเลือกฟิลเตอร์ ND ที่เหมาะสมกับงานจะช่วยให้คุณสามารถสร้างสรรค์ผลงานที่สวยงามและเป็นมืออาชีพได้

หากคุณต้องการภาพที่มีคุณภาพสูง และควบคุมแสงได้อย่างมืออาชีพ ฟิลเตอร์ ND คือตัวเลือกที่คุณไม่ควรมองข้าม!