หากคุณเคยเข้าสู่โลกของการทำ SEO หรือการติดต่อกับเว็บไซต์ คุณอาจเคยได้ยินคำว่า “nofollow link” มาก่อนหน้านี้ ในบทความนี้เราจะสำรวจและอธิบายความหมายของ nofollow link และบทบาทที่สำคัญของมันในโลกของ SEO มาอย่างละเอียด
Nofollow Link คืออะไร?
Nofollow link หมายถึงลิงก์ที่มีแอตทริบิวต์ rel=”nofollow” ที่ถูกเพิ่มเข้าไปในโค้ด HTML ของลิงก์ เมื่อมีการติดตั้งแอตทริบิวต์นี้ในลิงก์ จะทำให้เว็บไซต์ที่ได้รับลิงก์นี้ไม่ได้รับการส่ง link juice หรือค่าความสำคัญและความน่าเชื่อถือจากเว็บไซต์ต้นทาง นอกจากนี้ ลิงก์ nofollow ยังช่วยป้องกันการสร้าง backlink ที่ไม่เป็นธรรมชาติและมีเจตนาผิดกฎหมาย เช่น การแปลงเป็นลิงก์ที่ไม่เกี่ยวข้องหรือลิงก์ที่เกี่ยวข้องกับกิจกรรมสปัม การใช้ nofollow link เป็นเทคนิคที่น่าสนใจในการจัดการลิงก์เพื่อปรับปรุง SEO ของเว็บไซต์
ทำไมต้องใช้ Nofollow Link
1. ควบคุมการลิงก์ออก
Nofollow link ช่วยให้เว็บมาสเตอร์สามารถควบคุมลิงก์ที่ออกจากเว็บไซต์ได้อย่างสมบูรณ์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อมีการลิงก์ไปยังเว็บไซต์อื่นที่ไม่ได้เป็นความสำคัญสำหรับคุณ
2. ป้องกันการลิงก์สแปม
การใช้ Nofollow Link ช่วยลดโอกาสที่เว็บไซต์ของคุณจะถูกลิงก์โดยเว็บไซต์สแปม การลิงก์จากเว็บไซต์สแปมอาจทำให้เว็บไซต์ของคุณได้รับผลกระทบทางด้าน SEO และความเชื่อถือของผู้ใช้
วิธีการใช้ Nofollow Link
เมื่อคุณต้องการเพิ่ม nofollow link ในเว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถทำได้โดยการเพิ่มแท็ก rel="nofollow"
ในลิงก์ที่คุณต้องการให้เป็น nofollow link ตัวอย่างเช่น
<a href="https://example.com" rel="nofollow">ลิงก์ที่เป็น nofollow</a>
การเพิ่มแท็ก rel="nofollow"
จะบอกให้เครื่องมือการค้นหารู้ว่าลิงก์นี้ควรจะไม่ถูกนับคะแนนหรือส่งความสำคัญให้กับเว็บไซต์ที่ถูกลิงก์
ผลกระทบของ Nofollow Link
การใช้ nofollow link ไม่ได้ทำให้ลิงก์นั้นหายไป แต่เป็นการบอกเครื่องมือการค้นหาว่าเว็บไซต์ที่ถูกลิงก์ไม่ได้รับความสำคัญจากลิงก์นั้นๆ ดังนั้นผลกระทบทาง SEO ของ nofollow link มีดังนี้
- ไม่ส่ง Pagerank หรือความสำคัญไปยังเว็บไซต์ที่ถูกลิงก์
- ไม่มีผลต่อการระบุคำสำคัญของหน้าเว็บไซต์ที่ถูกลิงก์
- ลดโอกาสที่เว็บไซต์ที่ถูกลิงก์จะถูกอินเด็กซ์ (index) ในเครื่องมือการค้นหา
- ไม่มีผลต่อการค้นหาแบบครอว์ด์ (crawl) ของเว็บไซต์ที่ถูกลิงก์
Nofollow Link มีผลต่อการทำ SEO ไหม?
ถ้าถามคนอื่น เขาจะบอกว่า ไม่มีผลครับ แต่ถ้าถามผม ผมจะบอกว่า Nofollow Link มันมีผลต่อการทำอันดับนะ ถึงแม้ว่าจะได้คะแนนน้อยก็ตามแต่
เพื่อนๆ รู้หรือไม่ว่า Backlink ประเภท Nofollow Link ถือว่าเป็น Backlink ที่มีความเป็นธรรมชาติมากที่สุด ครั้งนึง Google เคยประกาศว่า ถ้าหากว่าคุณ อยากทำ Backlink เพื่อส่งกลับมาหาเว็บหลัก แนะนำให้เปลี่ยน Tags เป็นแบบ rel= ”nofollow”
Nofollow Link ใช้ในกรณีไหนบ้าง?
การทำ Nofollow Link จะนิยมใส่อยู่ 2 แบบ คือ
- ลิงก์ระหว่างหน้าภายในเว็บไซต์ของเราเอง (Internal Link)” แสดงให้เห็นว่าหน้าเว็บนั้นๆ ไม่ได้มีความสำคัญ Bot ไม่ต้องตามไปหรือให้คะแนน พวกหน้า ติดต่อเรา, สมัครสมาชิก เป็นต้นครับ
- ใช้กรณีที่เราไปแปะ Backlink ประเภท แบนเนอร์ ในตำแหน่ง header website หรือ Footer ซึ่งการติด Backlink ในตำแหน่งนั้น จะทำให้เราได้ ลิ้งก์ย้อนกลับตามจำนวนของหน้าเว็บไซต์นั้น ๆซึ่งในกรณีที่เราไปติด Backlink กับเว็บไซต์ที่มีหน้าเพจ 100,000 หน้า ก็อาจทำให้ เราได้ Backlink จากเว็บนั้นๆ 100,000 ลิ้งก์เลยทีเดียว ซึ่งอาจทำให้ Google มองว่าเป็นการสแปมลิ้งก์ได้ นักทำ SEO ส่วนมากก็เลยใช้ rel=”nofollow” เข้ามาช่วยครับ
ความหมาย Nofollow Link ที่ Google กล่าวไว้
ลิงก์จากไหนบ้างที่เป็น Nofollow Link
- ลิงก์จากแหล่งที่มาเหล่านี้ส่วนใหญ่จะเป็นลิงก์แบบ โนฟอลโลว์
- ลิงค์ในกระทู้
- ลิงก์จากคอมเมนต์ในบล็อก
- ลิงก์จากโซเชียลมีเดีย (เช่น ลิงก์ในโพสต์ Facebook)
- Pantip
- Youtube
- Wikipedia
สรุป
Nofollow link เป็นการใช้แท็ก rel="nofollow"
เพื่อบอกให้เครื่องมือการค้นหารู้ว่าลิงก์นั้นไม่ให้ความสำคัญกับเว็บไซต์ที่ถูกลิงก์ การใช้ nofollow link ช่วยให้คุณควบคุมการลิงก์ออกจากเว็บไซต์ของคุณได้อย่างเต็มที่และป้องกันการลิงก์สแปม อย่าลืมเพิ่มแท็ก rel="nofollow"
เมื่อคุณต้องการให้ลิงก์เป็น nofollow link ในเว็บไซต์ของคุณ
FAQs (คำถามที่พบบ่อย)
A : Nofollow link จะไม่ส่งความสำคัญหรือ Pagerank ไปยังเว็บไซต์ที่ถูกลิงก์ แต่ยังสามารถช่วยควบคุมการลิงก์ออกจากเว็บไซต์ของคุณและป้องกันการลิงก์สแปมได้
A : คุณสามารถเพิ่มแท็ก rel="nofollow"
ในลิงก์ที่ต้องการให้เป็น nofollow link เช่น <a href="https://example.com" rel="nofollow">ลิงก์ที่เป็น nofollow</a>
A : Nofollow link ไม่มีผลต่อการระบุคำสำคัญของหน้าเว็บไซต์ที่ถูกลิงก์
A : ใช่, การใช้ nofollow link ช่วยลดโอกาสที่เว็บไซต์ของคุณจะถูกลิงก์สแปม
A : Nofollow link ไม่มีผลต่อการค้นหาแบบครอว์ด์ของเว็บไซต์ที่ถูกลิงก์