Avada คืออะไร? เครื่องมือสร้างเว็บไซต์สำหรับ WordPress และ eCommerce

Avada เป็นหนึ่งในธีมและเครื่องมือสร้างเว็บไซต์ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดบน WordPress ด้วยฟีเจอร์ที่ครบครันและความสามารถในการออกแบบเว็บไซต์ที่ยืดหยุ่น Avada จึงเป็นตัวเลือกอันดับต้นๆ สำหรับผู้ที่ต้องการสร้างเว็บไซต์แบบมืออาชีพ โดยไม่ต้องมีความรู้ด้านโค้ดดิ้ง

ในบทความนี้ เราจะพาคุณไปรู้จักกับ Avada | Website Builder for WordPress & eCommerce พร้อมทั้งฟีเจอร์หลัก ข้อดี และเหตุผลที่ควรใช้ Avada สำหรับธุรกิจออนไลน์ของคุณ

หัวข้อ

Avada คืออะไร?

Avada เป็นธีม WordPress ระดับพรีเมียมที่พัฒนาโดย ThemeFusion ซึ่งได้รับความนิยมสูงสุดในตลาด ThemeForest ด้วยยอดขายมากกว่า 900,000 ครั้ง ทำให้ Avada เป็นหนึ่งในธีม WordPress ที่มียอดขายสูงสุดตลอดกาล

Avada ไม่ใช่แค่ธีม แต่ยังเป็น Website Builder ที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถสร้างและออกแบบเว็บไซต์ได้ง่าย ๆ ผ่าน Avada Builder (Fusion Builder เดิม) ซึ่งเป็นเครื่องมือสร้างหน้าเว็บแบบ Drag-and-Drop ที่ไม่ต้องพึ่งพาโค้ด

ฟีเจอร์หลักของ Avada

1. Avada Builder (Fusion Builder เดิม)

Avada มี Visual Drag & Drop Builder ที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถออกแบบเว็บไซต์ได้แบบเรียลไทม์ โดยไม่ต้องเขียนโค้ด

2. Pre-Built Websites & Demo Importer

Avada มาพร้อมกับ Starter Templates มากกว่า 90 แบบ ที่สามารถนำมาใช้ได้ทันที ช่วยลดเวลาในการออกแบบเว็บไซต์

3. รองรับ WooCommerce เต็มรูปแบบ

Avada เป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมสำหรับ eCommerce Websites โดยรองรับ WooCommerce อย่างสมบูรณ์ ช่วยให้คุณสร้างร้านค้าออนไลน์ที่สวยงามและใช้งานง่าย

4. Responsive & Mobile-Friendly Design

ทุกเว็บไซต์ที่สร้างด้วย Avada รองรับการแสดงผลแบบ Responsive ทำให้เว็บไซต์ของคุณดูดีบนทุกอุปกรณ์

5. SEO-Friendly

Avada ถูกออกแบบมาให้รองรับ SEO อย่างเต็มที่ รองรับ Schema Markup, Lazy Load, และโครงสร้าง HTML ที่เป็นมิตรกับเสิร์ชเอนจิน

6. Performance Optimization

Avada มีระบบ Performance Wizard ที่ช่วยให้เว็บไซต์โหลดเร็วขึ้น ปรับแต่ง CSS และ JavaScript ได้ง่าย ๆ

7. รองรับการแปลหลายภาษา (Multilingual Support)

Avada รองรับ WPML และ Polylang ช่วยให้คุณสร้างเว็บไซต์หลายภาษาได้ง่ายขึ้น

8. Integration กับ Plugins ยอดนิยม

Avada สามารถทำงานร่วมกับปลั๊กอินยอดนิยมต่างๆ เช่น Yoast SEO, WP Rocket, Contact Form 7, Gravity Forms และ Slider Revolution ได้อย่างราบรื่น

ข้อดีของ Avada

ใช้งานง่าย – ไม่ต้องเขียนโค้ดก็สามารถสร้างเว็บไซต์ได้
รองรับ WordPress & WooCommerce – เหมาะสำหรับธุรกิจออนไลน์และ eCommerce
มีดีไซน์ที่ยืดหยุ่น – ปรับแต่งเว็บไซต์ได้แบบ 100%
SEO-Friendly – โครงสร้างเว็บไซต์ถูกออกแบบมาให้รองรับการทำ SEO
รองรับการอัปเดตอย่างต่อเนื่อง – ThemeFusion มีการอัปเดต Avada ให้ทันสมัยอยู่เสมอ
มีชุมชนผู้ใช้ขนาดใหญ่ – มีเอกสารและวิดีโอสอนใช้งานมากมาย

Avada เหมาะกับใคร?

เจ้าของธุรกิจที่ต้องการสร้างเว็บไซต์แบบมืออาชีพ
นักออกแบบเว็บไซต์ที่ต้องการความยืดหยุ่นสูง
นักการตลาดและ Blogger ที่ต้องการเว็บไซต์ที่รองรับ SEO
ผู้ที่ต้องการสร้างร้านค้าออนไลน์ด้วย WooCommerce
ฟรีแลนซ์ที่ต้องการธีม WordPress ที่สามารถใช้งานได้หลากหลายโปรเจกต์

เปรียบเทียบ Avada กับธีม WordPress อื่นๆ

คุณสมบัติ	Avada	Elementor Pro	Divi
Visual Builder	✅	✅	✅
Demo Templates	✅ 90+ แบบ	✅ 300+ แบบ	✅ 100+ แบบ
รองรับ WooCommerce	✅	✅	✅
รองรับการทำ SEO	✅	✅	✅
ราคาซื้อครั้งเดียว	✅	❌ (Subscription-based)	✅
มี Performance Optimization	✅	❌	✅

ราคาและแพ็กเกจของ Avada

Avada มีราคาแบบ ซื้อครั้งเดียว (One-Time Purchase) ที่ $69 (ประมาณ 2,500 บาท) และสามารถใช้งานได้ตลอดชีพ พร้อมการอัปเดตฟรี

หมายเหตุ : ราคานี้รวม 6 เดือนของการสนับสนุนจาก ThemeFusion หากต้องการขยายการสนับสนุนเป็น 12 เดือน สามารถเพิ่มเงินอีก $21.38

สรุปทำไมต้องใช้ Avada?

ถ้าคุณกำลังมองหา ธีม WordPress อเนกประสงค์ ที่ช่วยให้คุณสร้างเว็บไซต์ได้แบบมืออาชีพ, รองรับ WooCommerce, เป็นมิตรกับ SEO และใช้งานง่ายโดยไม่ต้องเขียนโค้ด Avada คือหนึ่งในตัวเลือกที่ดีที่สุด