หากคุณทำเว็บไซต์หรือทำงานด้าน SEO (Search Engine Optimization) คำว่า “Crawler” หรือ “Web Crawler” คงคุ้นหูอยู่ไม่น้อย แต่รู้หรือไม่ว่าเบื้องหลังการค้นหาบน Google, Bing หรือ Yahoo นั้น ล้วนมีเจ้าสิ่งนี้ทำงานอยู่ตลอดเวลา
ในบทความนี้เรา KNmasters จะพาคุณไปเข้าใจว่า Crawler คืออะไร? มันทำงานอย่างไร? และเหตุผลที่มันสำคัญต่อการทำ SEO ของเว็บไซต์คุณ
หัวข้อ

Crawler คืออะไร?
Crawler หรือที่เรียกอีกชื่อว่า Web Crawler, Spider, หรือ Bot คือโปรแกรมอัตโนมัติที่ Search Engine ใช้ในการสำรวจ (crawl) และเก็บข้อมูลจากเว็บไซต์ต่างๆ บนอินเทอร์เน็ต เพื่อรวบรวมข้อมูลเข้าสู่ฐานข้อมูลของเครื่องมือค้นหา (Search Index)
ตัวอย่างที่รู้จักกันดีคือ
- Googlebot (ของ Google)
- Bingbot (ของ Bing)
- Yandex Bot (ของ Yandex)
Crawler จะทำงานคล้าย “แมงมุม” ที่ไต่ไปตามลิงก์จากหน้าเว็บหนึ่งไปอีกหน้าเว็บหนึ่ง เพื่อเก็บข้อมูลทั้งหมด เช่น เนื้อหา ลิงก์ รูปภาพ และโครงสร้างของเว็บไซต์นั้นๆ
การทำงานของ Crawler
โดยทั่วไป การทำงานของ Crawler มี 3 ขั้นตอนหลักคือ
1. Crawling (การสำรวจเว็บไซต์)
Crawler จะเริ่มจาก “URL Seed” หรือรายการลิงก์ตั้งต้น จากนั้นจะไต่ตามลิงก์ภายในหน้าเว็บ (Internal Links) เพื่อเก็บข้อมูลเพิ่มเติม
2. Indexing (การจัดเก็บข้อมูล)
หลังจากเก็บข้อมูลแล้ว Crawler จะส่งข้อมูลไปยังระบบประมวลผลของ Search Engine เพื่อ “ทำความเข้าใจ” เนื้อหา และจัดเก็บไว้ในฐานข้อมูล (Search Index)
3. Ranking (การจัดอันดับผลการค้นหา)
เมื่อผู้ใช้ค้นหาคำใดคำหนึ่ง Search Engine จะดึงข้อมูลจาก Index และใช้ Algorithm มาคำนวณเพื่อแสดงผลลัพธ์ที่เกี่ยวข้องมากที่สุด

ประเภทของ Crawler ที่สำคัญ
- General Search Crawler เช่น Googlebot, Bingbot ใช้สำหรับรวบรวมข้อมูลทั่วไปเพื่อใช้ในผลการค้นหา
- Specialized Crawler สำหรับงานเฉพาะ เช่น เก็บข้อมูลรูปภาพ (Google Images), วิดีโอ (YouTube Crawler) หรือข่าวสาร (Google News Bot)
- SEO Tools Crawler เช่น Screaming Frog, Ahrefs, Semrush ที่นักการตลาดใช้จำลองการทำงานของ Googlebot เพื่อวิเคราะห์เว็บไซต์ของตนเอง
ทำไม Crawler ถึงสำคัญต่อ SEO
หากไม่มี Crawler เว็บไซต์ของคุณจะไม่ถูกค้นพบบน Google หรือเครื่องมือค้นหาอื่นๆ เพราะมันคือขั้นตอนแรกของการ “เข้าไปอยู่ในระบบค้นหา”
ดังนั้นการดูแลให้ Crawler เข้าถึงเว็บไซต์ได้อย่างราบรื่น จึงเป็นหัวใจสำคัญของ SEO
สิ่งที่ควรใส่ใจ เช่น
- ตรวจสอบว่าไม่มีการบล็อก Crawler ผ่านไฟล์
robots.txt - ใช้ Sitemap.xml เพื่อช่วยให้ Crawler เข้าใจโครงสร้างเว็บไซต์
- ปรับปรุงความเร็วเว็บไซต์ เพราะบอตชอบเว็บที่โหลดเร็ว
- ใช้โครงสร้างลิงก์ (URL Structure) ที่เป็นมิตรต่อการไต่ของ Crawler
ตัวอย่างไฟล์ robots.txt
ไฟล์นี้ช่วยบอก Crawler ว่าหน้าใดอนุญาตให้เข้าถึง และหน้าใดห้าม
User-agent: *
Disallow: /admin/
Allow: /
Sitemap: https://www.example.com/sitemap.xmlเคล็ดลับเพิ่มประสิทธิภาพให้ Crawler ทำงานได้ดีขึ้น
- อัปเดตเนื้อหาเป็นประจำ — เว็บไซต์ที่มีการอัปเดตบ่อยจะถูก Crawler มาเยี่ยมบ่อยขึ้น
- ใช้ Internal Links ที่ดี — ช่วยให้บอตเข้าใจความสัมพันธ์ระหว่างหน้าในเว็บไซต์
- หลีกเลี่ยงลิงก์เสีย (Broken Links) — เพราะจะทำให้ Crawler หยุดทำงานบางส่วน
- ใช้โครงสร้างข้อมูล (Schema Markup) — เพื่อให้ Crawler เข้าใจบริบทของเนื้อหาได้ชัดเจนขึ้น
สรุป
Crawler คือพื้นฐานของทุกอย่างในโลกของ SEO หากเว็บไซต์ของคุณถูกบอตสำรวจได้ดี ข้อมูลก็จะถูกจัดเก็บในฐานข้อมูลอย่างถูกต้อง และมีโอกาสสูงที่จะปรากฏในหน้าแรกของ Google แต่หาก Crawler เข้าถึงไม่ได้ เว็บไซต์ของคุณก็จะเหมือนไม่มีตัวตนบนโลกออนไลน์เลยทีเดียว
อย่ารอช้า! ให้ KNmasters ดูแลธุรกิจของคุณวันนี้!
หากคุณต้องการข้อมูลเพิ่มเติมหรืออยากเริ่มใช้บริการกับ KNmasters เราพร้อมช่วยให้ธุรกิจของคุณเติบโตด้วยกลยุทธ์การตลาดออนไลน์ครบวงจร
- Facebook : KNmasters รับทำเว็บไซต์ WordPress SEO Backlink การตลาดออนไลน์ครบวงจร
- LINE : KNmasters
- Youtube : KNmasters
- Instagram : knmasters.official
- Tiktok : KNmasters.official
- Twitter : KNmasters Official
- เว็บไซต์ : www.knmasters.com
- แผนที่ : KNmasters





