knmasters.official@gmail.com
Monday - Sunday : 06.00 A.M. - 11.59 P.M.
KNmasters Digital Marketing การตลาดออนไลน์
เพิ่มเพื่อน

เปรียบเทียบ WordPress และ Joomla ว่าต่างกันอย่างไร?

KNmasters Digital Marketing การตลาดออนไลน์
Share This Post
สารบัญ

เว็บไซต์ (Website) หรือ เว็บบล็อก (Blog) การเลือกใช้ระบบจัดการเนื้อหาที่เหมาะสมสำหรับความต้องการของคุณเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง ในปัจจุบันมีหลายเครื่องมือที่สามารถช่วยให้คุณสามารถสร้างเว็บไซต์ได้อย่างรวดเร็วและง่ายดาย และสองอันดับแรกที่มักจะมีคนพูดถึงกันอย่างแพร่หลายนั่นก็คือ WordPress และ Joomla นั่นเอง

ในบทความนี้เราจะมา เปรียบเทียบระหว่าง WordPress และ Joomla เพื่อช่วยให้คุณเข้าใจและตัดสินใจเลือกระบบจัดการเนื้อหาที่เหมาะสมกับความต้องการของคุณ

เวิร์ดเพรส (WordPress)

เปรียบเทียบ WordPress และ Joomla ว่าต่างกันอย่างไร?

WordPress เป็นระบบจัดการเนื้อหา (CMS) ที่มีความนิยมและได้รับการใช้งานอย่างกว้างขวางในการสร้างและดูแลเว็บไซต์ มันเป็นซอฟต์แวร์เปิดตัวที่ใช้ง่ายและมีความยืดหยุ่นสูง ผู้ใช้งานทั่วไป รวมถึงมือใหม่ที่ไม่มีความเชี่ยวชาญในการเขียนโค้ด สามารถใช้ WordPress เพื่อสร้างเว็บไซต์ขนาดกลางและเว็บบล็อกทั่วไปได้อย่างง่ายดาย นอกจากนี้ มันยังเป็นระบบที่เหมาะสำหรับการทำ SEO และมีจำนวนเทมเพลตและปลั๊กอินที่มีอยู่ให้เลือกใช้งานมากมาย เป็นเหตุผลที่ WordPress เป็นที่นิยมในการสร้างเว็บไซต์ที่สวยงามและมีประสิทธิภาพได้อย่างทันสมัย

จูมล่า (Joomla)

เปรียบเทียบ WordPress และ Joomla ว่าต่างกันอย่างไร?

Joomla เป็นระบบจัดการเนื้อหา (CMS) ที่เป็นซอฟต์แวร์เปิดตัวที่ใช้ในการสร้างและจัดการเว็บไซต์ โดยมีความยืดหยุ่นและความสามารถในการปรับแต่งที่สูง เป็นทางเลือกที่ได้รับความนิยมในการสร้างเว็บไซต์ E-Commerce, เว็บไซต์ Social Network, หรือเว็บไซต์ที่ต้องการความยืดหยุ่นในการจัดระเบียบและปรับแต่งเนื้อหา ระบบ Joomla มีการพัฒนาและรองรับจากชุมชนผู้ใช้งานอย่างแข็งแกร่ง และมีจำนวนเทมเพลตและปลั๊กอินที่สามารถติดตั้งเพื่อเพิ่มความสามารถให้กับเว็บไซต์ได้ตามต้องการ

ตาราง เปรียบเทียบ WordPress และ Joomla

WordPressJoomla
ยูสเซอร์เนมที่ยากต่อการจดจำง่ายยาก
ระบบธีมและปรับแต่งง่ายซับซ้อน
ประสิทธิภาพของเว็บไซต์ดีดี
ฟังก์ชันการติดตามผู้เข้าชมมีต้องใช้ปลั๊กอิน
การค้นหาและ SEOสะดวกสะดวก
รองรับหลายภาษามีมี
ความปลอดภัยสูงสูง

เปรียบเทียบ WordPress และ Joomla

1. ยูสเซอร์เนมที่ยากต่อการจดจำ

เมื่อเริ่มต้นใช้งาน การจดจำยูสเซอร์เนมใน WordPress จะง่ายกว่าใน Joomla ซึ่ง WordPress ใช้ชื่อผู้ใช้ที่สร้างสำหรับการเข้าสู่ระบบ ในขณะที่ Joomla ใช้รหัสผ่านและยูสเซอร์เนมที่ซับซ้อนกว่า

2. ระบบธีมและปรับแต่ง

WordPress มีระบบธีมที่ง่ายต่อการใช้งานและปรับแต่ง คุณสามารถเลือกใช้ธีมที่ถูกสร้างมาให้แล้วหรือออกแบบธีมของคุณเองได้อย่างง่ายดาย ในขณะที่ Joomla มีการตั้งค่าและปรับแต่งที่ซับซ้อนกว่า คุณอาจต้องใช้เวลาเพิ่มเติมในการเรียนรู้การใช้งานและปรับแต่ง

3. ประสิทธิภาพของเว็บไซต์ (Performance)

ทั้ง WordPress และ Joomla มีประสิทธิภาพที่ดีในการทำงานกับเว็บไซต์ของคุณ ความเร็วในการโหลดและการทำงานทั้งสองระบบจะเป็นไปอย่างราบรื่น อย่างไรก็ตาม ความสามารถของเซิร์ฟเวอร์ที่คุณใช้ และปริมาณการเข้าชมเว็บไซต์ของคุณยังส่งผลต่อประสิทธิภาพดังกล่าวด้วย

4. ฟังก์ชันการติดตามผู้เข้าชม

WordPress มีฟังก์ชันการติดตามผู้เข้าชมและสถิติพื้นฐานที่ใช้งานได้ง่ายในการติดตามผู้เข้าชมเว็บไซต์ของคุณ ส่วน Joomla คุณต้องใช้ปลั๊กอินเสริมเพื่อเพิ่มฟังก์ชันการติดตามผู้เข้าชมและสถิติ

5. การค้นหาและ SEO

ทั้ง WordPress และ Joomla มีฟังก์ชันการค้นหาและการจัดการ SEO ที่สะดวกและใช้งานได้ง่าย คุณสามารถเพิ่มและปรับแต่งเมตาแท็กสำหรับเว็บไซต์ของคุณเพื่อเพิ่มโอกาสในการปรากฏในผลการค้นหาของเครื่องมือค้นหา

6. รองรับหลายภาษา (Multiple Languages)

ทั้ง WordPress และ Joomla สามารถรองรับการแปลเว็บไซต์เป็นหลายภาษาได้ คุณสามารถสร้างและจัดการเนื้อหาในหลายภาษาและปรับแต่งการแสดงผลของเว็บไซต์ของคุณตามความต้องการของกลุ่มผู้ใช้

7. ความปลอดภัย (Security)

ทั้ง WordPress และ Joomla มีระบบความปลอดภัยที่มีความเข้มงวด อย่างไรก็ตาม เพราะ WordPress เป็นระบบที่ได้รับความนิยมมากกว่า Joomla จึงมีจำนวนมากของผู้ไม่ประสงค์ดีที่อาจพยายามโจมตีเว็บไซต์ที่ใช้ WordPress อย่างไรก็ตาม โดยมากแล้วทั้งสองระบบมีระบบความปลอดภัยที่สูงและรองรับการอัปเดตเพื่อความปลอดภัยเช่นกัน

8. ส่วนแบ่งการตลาด (Market Share)

ส่วนแบ่งการตลาดของ WordPress ถือว่าเป็นอันดับหนึ่งในแพลตฟอร์ม CMS โดยครองส่วนแบ่งทางการตลาดไปอย่างมาก ซึ่งมีร้อยละประมาณ 58% ของตลาด ในขณะที่ Joomla ครองส่วนแบ่งทางการตลาดอยู่ที่ประมาณ 7% เป็นอันดับที่สอง นอกจากนี้จะเห็นได้ว่า WordPress มีความนิยมและมีการใช้งานอย่างแพร่หลายมากกว่า Joomla ในระดับตลาด CMS

ข้อเปรียบเทียบWordPressJoomla!
การติดตั้งง่ายมาก โดยใช้ Softaculous หรือโปรแกรมช่วยติดตั้งง่ายมาก โดยใช้ Softaculous
ระดับการเรียนรู้ใช้เวลาไม่นานช่วงแรกควรมีการแนะนำการใช้ แต่ใช้เวลาไม่นาน
ความง่ายในการใช้งานใช้งานง่ายใช้งานง่าย
ราคาสำหรับ Wiselab media ราคาทำเว็บด้วย WordPress หรือ Joomla! ไม่แตกต่างกันสำหรับ Wiselab media ราคาทำเว็บด้วย WordPress หรือ Joomla! ไม่แตกต่างกัน
ใช้ทำเว็บอะไรได้บ้างทำเว็บได้แทบทุกประเภททำเว็บได้แทบทุกประเภท
ขนาดของเว็บไซต์เหมาะกับเว็บไซต์ที่ไม่ซับซ้อนเหมาะกับเว็บขนาดเล็กจนถึงขนาดใหญ่ หรือมีแนวโน้มจะขยายตัว
การจัดการข้อมูลเชิงระบบใช้เวลาแก้ไขนาน ยุ่งยากกว่า โอกาสผิดพลาดง่ายจัดการเชิงระบบได้ดีกว่า เร็วกว่า ผิดพลาดน้อยกว่า
รูปแบบความสวยงามของเว็บWordPress เรียกว่า Themes ธีม มีให้เลือกมากกว่า 51,427 Themes (อัปเดตล่าสุด)Joomla! เรียกว่า Template เทมเพลท มีให้เลือกมากกว่า 1000+ เทมเพลท (อัปเดตล่าสุด)
โปรแกรมเสริมWordPress เรียกว่า Plugin ปลั๊กอิน มีให้เลือกประมาณ 58,363 ปลั๊กอิน (อัปเดตล่าสุด)Joomla! เรียกว่า Extension มี 3 ส่วนคือ Component, Module, Plugin มีให้เลือกประมาณ 6000 Extension (อัปเดตล่าสุด)
ความปลอดภัย Securityโปรแกรมหลักมีความปลอดภัยดี แต่ปลั๊กอินมักถูกโจมตีจาก Hacker, Malwareโปรแกรมหลักมีความปลอดภัยดี
การรองรับการทำ SEOSEO Friendly และมีปลั๊กอิน Yoast SEO ที่มีประโยชน์มากSEO Friendly ไม่แตกต่างกัน สามารถทำให้เว็บติดอันดับต้นๆใน Google ได้เช่นกัน
ส่วนแบ่งของการใช้ CMS ทั่วโลก60%5%

ในส่วนของการเปรียบเทียบระบบจัดการเนื้อหา (CMS) ระหว่าง WordPress และ Joomla ดังนี้

  1. ส่วนแบ่งทางการตลาด:
    • WordPress: ครองส่วนแบ่งทางการตลาดไปที่ 58%
    • Joomla: ครองส่วนแบ่งทางการตลาดไปที่ 7%
  2. สถานะ Open Source:
    • WordPress และ Joomla เป็นซอฟต์แวร์ Open Source ที่สามารถโหลดมาใช้งานได้ฟรี
    • พัฒนาโดยคอมมูนิตี้กว่า 1,000 กลุ่ม
  3. ภาษาและระบบฐานข้อมูล:
    • เขียนด้วยภาษา PHP และใช้ระบบจัดการฐานข้อมูล MySQL
  4. เทมเพลตและปลั๊กอิน:
    • มีเทมเพลตสำหรับการออกแบบให้เลือกใช้งาน
    • มีปลั๊กอินสำหรับเพิ่มคุณสมบัติต่างๆให้กับเว็บไซต์

ถึงแม้ว่าในภาพรวมจะมีความคล้ายคลึงกันระหว่าง WordPress, และ Joomla แต่ทั้งสองระบบนี้ยังมีความแตกต่างกันในกระบวนการสร้างเว็บไซต์อย่างละเอียด ดังนั้นการตัดสินใจเลือกใช้ระบบใดระบบหนึ่งอาจเป็นงานที่ยากและต้องพิจารณาอย่างถี่ถ้วน

ความแตกต่างระหว่าง WordPress และ Joomla 

CMSWordPressJoomla
เกี่ยวกับเราWordPress เป็นซอฟต์แวร์ Open Source ที่ทำให้คุณสามารถสร้างเว็บไซต์, บล๊อก, แอพพลิเคชั่นได้อย่างสวยงามJoomla เป็นระบบจัดการเนื้อหาที่ได้รับรางวัล ซึ่งจะช่วยให้คุณสามารถสร้างเว็บไซต์และแอพลิเคชั่นออนไลน์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ประเภทซอฟต์แวร์เป็น Open Source สามารถใช้งานฟรีเป็น Open Source สามารถใช้งานฟรี
ส่วนแบ่งการตลาด (CMS)58.9%7.0%
การติดตั้งOne-click Install ติดตั้งภายใน 5 นาทีOne-click Install ติดตั้งภายใน 10 นาที
การใช้งานเป็นมิตรกับผู้ใช้งานมาก (5/5)เป็นมิตรต่อผู้ใช้งานในระดับหนึ่ง (4/5)
ธีม4500+ Official Themes (ฟรี) 9500+ Premium Themes (ใน ThemeForest)ไม่มีธีม Official  950+ Premium Templates (ใน ThemeForest)
ปลั๊กอินและส่วนขยาย50,000+ Official Plugins (ฟรี)7500+ Official Extensions (ฟรี+เสียเงิน)
เว็บไซต์ชั้นนำChicaco Sun Times, Vogue India, Katy PerryMichael Phelps – MP Brand, Discover Magazine, French West Indies

เมื่อเปรียบเทียบระบบจัดการเนื้อหา (CMS) ระหว่าง WordPress และ Joomla สามารถสรุปคุณสมบัติและความเหมาะสมต่อผู้ใช้งานได้ ดังนี้

WordPress:

  • การติดตั้งง่ายและมีการใช้งานที่เป็นมิตรต่อผู้ใช้งานใหม่
  • เหมาะสำหรับการสร้างเว็บไซต์ขนาดกลางและเว็บบล็อกทั่วไป
  • มีความเหมาะสมสูงสำหรับการทำ SEO
  • มีจำนวนปลั๊กอินและเทมเพลตที่มากที่สุดในชุดเครื่องมือ

Joomla:

  • มีความเป็นมิตรต่อผู้ใช้งานในระดับหนึ่ง
  • มีความยืดหยุ่นและลูกเล่นให้สามารถปรับแต่งได้มากกว่า WordPress
  • เหมาะสำหรับเว็บไซต์ E-Commerce และเว็บไซต์ Social Network

อย่างไรก็ตามความเหมาะสมของระบบจัดการเนื้อหา (CMS) ยังขึ้นอยู่กับความต้องการและวัตถุประสงค์ของผู้ใช้งานเอง ผู้ใช้งานควรพิจารณาดูคุณสมบัติและความเหมาะสมของแต่ละระบบเพื่อให้เลือกใช้งานตามความต้องการและความถนัดของตนเอง

สรุป

เมื่อพิจารณาเปรียบเทียบระหว่าง WordPress และ Joomla ทั้งสองระบบจัดการเนื้อหานั้นมีคุณสมบัติและความสามารถที่หลากหลาย การเลือกใช้ระบบจัดการเนื้อหาที่เหมาะสมกับคุณควรพิจารณาถึงความง่ายในการใช้งาน การปรับแต่ง ประสิทธิภาพ เครื่องมือ SEO ความสามารถในการรองรับหลายภาษา และความปลอดภัยของระบบ

คุณสามารถเลือกใช้ WordPress หากคุณต้องการระบบที่ใช้งานง่ายและมีฟังก์ชันการติดตามผู้เข้าชมและการจัดการ SEO ที่สะดวก และคุณสามารถเลือกใช้ Joomla หากคุณต้องการระบบที่มีความยืดหยุ่นในการปรับแต่งและการรองรับหลายภาษาอย่างครบถ้วน

คำถามที่พบบ่อย (FAQ)

Q : WordPress และ Joomla เหมาะสมสำหรับงานที่ใด?

A : สองระบบนี้เหมาะสำหรับการใช้งานเว็บไซต์หรือบล็อกที่มีความซับซ้อนต่างกัน ถ้าคุณต้องการระบบที่ใช้งานง่ายและมีฟังก์ชันการติดตามผู้เข้าชมและการจัดการ SEO ที่สะดวก คุณควรเลือกใช้ WordPress แต่ถ้าคุณต้องการความยืดหยุ่นในการปรับแต่งและการรองรับหลายภาษา คุณควรเลือกใช้ Joomla

Q : ฉันสามารถเปลี่ยนระบบจัดการเนื้อหาได้หากฉันต้องการ?

A : ใช่ คุณสามารถเปลี่ยนระบบจัดการเนื้อหาได้ แต่ควรตรวจสอบความเข้ากันได้ของข้อมูลและการปรับแต่งก่อนที่จะดำเนินการเพื่อป้องกันการสูญเสียข้อมูลหรือปัญหาการนำเข้าข้อมูล

Q : ฉันสามารถใช้ปลั๊กอินใน WordPress และ Joomla ได้หรือไม่?

A : ใช่ ทั้ง WordPress และ Joomla รองรับการใช้งานปลั๊กอินเสริมเพื่อเพิ่มฟังก์ชันและความสามารถเพิ่มเติมในเว็บไซต์ของคุณ

Q : ฉันจำเป็นต้องมีความเชี่ยวชาญเทคนิคเพื่อใช้งาน WordPress หรือ Joomla หรือไม่?

A : ไม่จำเป็น ทั้ง WordPress และ Joomla มีอินเทอร์เฟซที่ใช้งานง่ายและมีคู่มือการใช้งานเพื่อช่วยคุณในกระบวนการเรียนรู้และใช้งานระบบ

สนใจติดต่อสอบถามได้ที่

Facebook: KNmasters
Instagram: knmasters.official
Tiktok: knmasters.official
Youtube: Knmasters Official
Twitter: KNmasters Official
Email: knmasters.official@gmail.com
Website: https://www.knmasters.com
LINE: https://lin.ee/nTKZI9w